, จาการ์ตา – ผู้สูงอายุถือว่าปกติหากลืมบางสิ่งบางอย่างหรือกลายเป็นคนชรา เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการคิดและจดจำของสมองของบุคคลก็จะลดลงได้อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ภาวะสมองเสื่อมในวัยชราในผู้สูงอายุไม่ควรทน เพราะภาวะนี้ยังสามารถป้องกันได้หลายวิธี
แม้ว่าผู้สูงอายุจำนวนมากจะประสบกับมัน แต่ภาวะสมองเสื่อมหรือภาวะสมองเสื่อมในวัยชราไม่ใช่กระบวนการชราตามปกติ ภาวะสมองเสื่อมในวัยชราเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความเสียหายต่อเซลล์สมองที่ขัดขวางความสามารถในการสื่อสารระหว่างเซลล์เหล่านี้ ลักษณะของผู้ที่เป็นโรคสมองเสื่อม ได้แก่ ความจำลดลง ความสามารถในการคิดและเข้าใจสิ่งต่างๆ ลดลง และความฉลาดทางจิตลดลง
หากสามารถทนต่อภาวะสมองเสื่อมในวัยชราและปล่อยไว้ตามลำพัง ความสามารถของสมองของบุคคลนั้นจะอ่อนแอลงมากขึ้นเรื่อยๆ และเสี่ยงต่อการเป็นโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นความจำเสื่อม มีปัญหาในการคิดและแก้ปัญหา แม้กระทั่งปัญหาทางภาษา นอกจากนี้ ผู้ปกครองในวัยชรามักจะประสบกับภาวะซึมเศร้า มักโกรธ มีปัญหาในการเข้าสังคม และอาจถึงขั้นหลอนได้ เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้และต้องพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้อื่น
การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 76 ของกรณีที่ความสามารถของสมองลดลงนั้นได้รับอิทธิพลจากวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้น เพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา ผู้ปกครองที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปควรได้รับการสนับสนุนให้ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดี ต่อไปนี้เป็นวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำได้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเข้าสู่วัยชรา:
1. ปกป้องศีรษะจากผลกระทบ
สภาพร่างกายของผู้สูงอายุนั้นเปราะบางมาก และหากหกล้มหรือถูกตี อาจนำไปสู่สภาวะที่ร้ายแรงและถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นผู้สูงอายุจึงต้องระมัดระวังในการทำกิจกรรม เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์ ให้สวมหมวกนิรภัยเสมอเพื่อป้องกันศีรษะจากการกระแทกหนักหรือการบาดเจ็บที่สมอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความชราภาพหรือภาวะสมองเสื่อมได้
2. การอ่านและการเขียน
กิจกรรมทั้งสองนี้มีประสิทธิภาพสำหรับการฝึกและกระตุ้นเซลล์ประสาทของสมอง ดังนั้นผู้ปกครองควรอ่านหนังสือพิมพ์และเขียนไดอารี่บ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นวัยชรา หากคุณมักจะลืม ผู้ปกครองควรจดทุกสิ่งที่ต้องจำไว้ในหนังสือ
3. เล่นหมากรุก
หมากรุกเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นกีฬาที่ดีสำหรับสมอง การเล่นหมากรุก ผู้ปกครองสามารถฝึกฝนและเพิ่มการทำงานของสมองได้อย่างเต็มที่ จึงป้องกันไม่ให้พวกเขากลายเป็นคนชรา
4. เล่นเกมความจำ
นอกจากหมากรุกแล้ว ผู้สูงอายุควรเล่นเกมความจำบ่อยๆ เช่น เกมไขปริศนาอักษรไขว้ เกมกรณีศึกษา หรือเกม ภาพลวงตา . เกมเหล่านี้ทำให้พวกเขาคิดและใช้ตรรกะในการแก้ปัญหา ดังนั้นผลกระทบจึงดีมากสำหรับการพัฒนาและฝึกฝนความสามารถของสมอง
5. ดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพ
การเลิกนิสัยที่ไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่และการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการเริ่มใช้นิสัยที่ดี เช่น การออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ การนอนหลับให้เพียงพอ ก็เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา นอกจากนี้ ให้กินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีต่อสุขภาพสมอง เช่น ดาร์กช็อกโกแลต อะโวคาโด บลูเบอร์รี่ แซลมอน และไข่
6. เข้าสังคม
การเข้าสังคมอย่างแข็งขันเป็นกิจกรรมที่ยอดเยี่ยมในการป้องกันภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา โดยการสื่อสารกับสมาชิกในครอบครัว การเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ และกิจกรรมทางสังคมอื่นๆ บ่อยครั้ง ผู้ปกครองสูงอายุสามารถรักษาและปรับปรุงความสามารถของสมอง โดยเฉพาะส่วนของสมองที่ควบคุมฟังก์ชันการสื่อสาร
7. กิจกรรมทางจิตวิญญาณ
เชื่อกันว่ากิจกรรมการสักการะมีบทบาทสำคัญในการรักษาและปรับปรุงสมาธิของสมอง รวมทั้งการรักษาสุขภาพจิต ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถเติมเต็มเวลาโดยมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางจิตวิญญาณต่างๆ เพื่อไม่ให้ความสามารถของสมองลดลง นอกจากนี้ การอดอาหารยังแสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์ในการซ่อมแซมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สมอง
เหล่านี้คือกิจกรรมบางอย่างที่สามารถช่วยป้องกันผู้ปกครองผู้สูงอายุจากภาวะสมองเสื่อมหรือภาวะชราภาพได้ (อ่านเพิ่มเติม: กีฬา 5 ประเภทที่เหมาะกับผู้ปกครอง ) หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาภาวะสมองเสื่อมหรือภาวะสมองเสื่อมในวัยชรา อย่าลังเลที่จะถามแพทย์ผ่านแอป . คุณยังสามารถซื้อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและอาหารเสริมที่คุณต้องการผ่านแอพ มาเร็ว, ดาวน์โหลด ตอนนี้ใน App Store และ Google